Bangkok Climathon
เป็น Hackathon ครั้งที่ 2 ในชีวิตของผม โดยผมได้เห็นงานนี้จาก Facebook Hackathon thailand โดยโจทย์ของงานนี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจัดการขยะ ปัญหาคาร์บอน ปัญหาภัยพิบัติที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และอื่นๆ ซึ่งก่อนที่จะได้เข้าร่วมโครงการในตอนแรกผมก็คิดหา Solution ในการแก้ปัญหานํ้าท่วม แต่พอถึงวัน Oreintation ที่เปิดโอกาสให้ Hacker ทั้งหลายมาแลกเปลี่ยนใอเดียกันตามที่เราสนใจ กลายเป็นว่าใอเดียของผมมีทั้งห้อง มีแค่ 2 คน สรุปผมกับพี่อีกคนก็จึงตกลงกันว่าพวกเราต้องไปรวมกับกลุ่มอื่น เพราะมีแค่ 2 คนมันทำไม่ได้ และพอถึงวันจริง วันนั้นค่อนข้างวุ่นวายมาก เพราะผมพึ่งสอบเสร็จก็ต้องรีบไป Hackathon ต่อเลย เรียกได้ว่าวันนั้นเหนื่อยแบบสุดๆ ก็เดินทางแบบทุลักทุเลจนไปถึงงานได้สำเร็จ พอไปถึงก็ได้แต่งงๆว่าเราต้องทำไรกันแน่ พอถามๆคนในงานก็ได้รู้ว่าเค้าให้รวมกลุ่มกันเองตามหัวข้อที่เราสนใจเลย ในใจผมตอนนั้นคือชิบหายแล้วไง ตอนที่คุยกันวันนั้นมีแค่เรากับพี่อีกคนเอง แค่ 2 คนมันจะไปเป็นทีมได้ไง ก็เลยเดินไปดูทั่วๆงาน จนสุดท้ายก็ได้เจออยู่กลุ่มนึง โดยกลุ่มนี้เค้าสนใจในเรื่องของ Green Space ก็เลยได้ไปนั่งฟังใอเดียของพี่เค้า แล้วก็เท่าที่ฟังก็ดูน่าสนใจดี จนในท้ายที่สุดก็ได้อยู่ทีมนี้ ชื่อทีม Dream Comes True ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครตั้งลืมไปแล้ว555 ก็งานนี้โดยรวมๆก็มีความคล้ายกับ Hackathon งานที่แล้วตรงที่ก็จะมี session อยู่หลาย session รวมไปถึงการ Mentor ที่ยังคงมีเหมือนเดิม แต่งานนี้มันให้ความรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ใหญ่กว่าคราวที่แล้วอยู่มาก คือคนที่เข้าร่วมก็มีหลายช่วงวัย ไม่ว่าจะตั้งแต่คนที่กำลังเรียนอยู่ ม.6 มหาวิทยาลัย ปริญญาตรี โท เอก หรือ แม้แต่พนักงานบริษัทหรือเจ้าของบริษัทก็ยังมาเข้าร่วมงานนี้ และรวมไปถึง guest ที่เชิญมาก็ระดับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผมจึงรู้สึกได้ว่างานมันใหญ่กว่าครั้งที่แล้วเยอะ ส่วนการ Hackathon ก็เหมือนๆกันกับครั้งที่แล้วเลยก็คือ ไม่ได้นอน555 ที่ต่างก็น่าจะมีแค่ไม่เมาแค่นั้น โดยสุดท้ายหลังจากอดหลับอดนอนกันมา เราก็ทำงานจนเสร็จ เตรียมพร้อมท่จะไป Pitch โดยกลุ่มเราจะทำเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เขตธรณีสงฆ์ของวัดให้เป็นสวนละแวกบ้าน โดยพวกเราก็ลงทุนถึงขนาดที่เราไปดูพื้นที่นำร่องด้วยตัวเองตั้งแต่วันนั้นเลย และเมื่อถึงเวลา Pitching เราก็ส่งพี่ต้น ที่เป็นต้นคิดใอเดียนี้ไป Pitching และพวกเราก็คอยให้กำลังใจอยู่ด้านล่างเวที 555 ซึ่งหลังจากที่พี่ต้น Pitch เสร็จ ผลที่ได้ก็กลับดีเกินที่พวกเราคาดหวังไว้ พวกเราได้ที่ 2 จากงานนี้ และก็มีแนวโน้มที่ใอเดียเราจะได้ใช้จริงซะด้วย งานนี้เลยเป็นอีกงานนึงที่ผมค่อนข้างประทับใจ เป็นอีก Event ที่มีความสำคัญกับชีวิตผม Event นึงเลยครับ